หยินหยางเป็นขั้นพื้นฐานในการเข้าสภาวะของฮวงจุ้ย

หยินหยางเป็นขั้นพื้นฐานในการเข้าสภาวะของฮวงจุ้ย

ควรให้ความสนใจกับพลังงานกลางบ้าน เพราะพลังงานกลางบ้านเป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดพลังไท้เก็ก ก็คือ ทำให้เกิดพลังระหว่างหยินกับหยาง (ฮวงกับจุ้ยสัมพันธ์กันแล้วผันแปรเป็นพลังงานที่ให้บ้านนั้นๆอยู่ บ้านหนึ่งหลังจะมีพลังงานกลางบ้านที่ไม่เหมือนกัน จึงเห็นได้ว่าคนจีนโบราณจะให้ความสำคัญกับกลางบ้าน ตำแหน่งกลางบ้านส่วนใหญ่จะถูกไว้สำหรับตั้งเจ้าที่หรือตี่จู้เอียะเป็นหลักสำหรับคนจีน เพื่อเสริมตำแหน่งธาตุดิน กึ่งกลางบ้านเป็นตำแหน่งธาตุดินในวัฎจักรของวงจร 5 ธาตุ ตี่จู้เอียะเป็นสีแดง คือธาตุไฟให้กำเนิดดิน ทำให้ไปเสริมพลังงานกึ่งกลางบ้านให้มีพลัง เราจะเคยได้ยินว่าถ้ามีห้องน้ำอยู่กึ่งกลางบ้านจะไม่ดี เพราะห้องน้ำเป็นธาตุน้ำและเป็นที่วางสิ่งปฏิกูลในบ้าน เพราะฉะนั้นถ้าเราไปทำลายจุดกึ่งกลางบ้านจะหาความเป็นมงคลในบ้านนั้นยากมาก ซึ่งมีวิธีแก้ไขอย่างเดียวคือ ต้องย้ายไท้เก๊กกึ่งกลางบ้าน โดยมีวิธีการย้ายอยู่ 3 ระบบ

ฮวงจุ้ยมีการแก้อยู่ 2 ระบบ คือ ระบบที่มองเห็นด้วยตา ถูกเรียกว่า “พลังงานหยาง” (ด้านสว่างมีมองเห็น/สัมผัสได้) และ ระบบที่มองไม่เห็นด้วยตา ถูกเรียกว่า “พลังงานหยิน” (ด้านมืดที่ไม่ได้สัมผัสด้วยตา ซึ่งจะเป็นพลังงานที่รุนแรงสูง) เต๋าจึงให้ความสำคัญในการแก้พลังงานด้านมืดมากกว่าการแก้พลังงานด้านสว่าง เพราะพลังงานสว่างแก้ได้ง่าย

ยกตัวอย่างเช่น ลูกศิษย์อ.แขก ทำการค้าขายผักในตลาด วันหนึ่งมีแมวดำมาตายอยู่หน้าร้าน แต่ธุรกิจก็ไม่ได้ซบเซาอะไร แต่มีข้อแปลกตรงที่ตั้งแต่แมวดำตาย ในบริเวณที่ตายนั้นถ้าวางผัก/เนื้อสัตว์/ปลา มักจะเสียและเน่าเร็วมาก ในวิชาเต๋ามองว่าแมวดำหรือสีอื่นที่ตาย (แมวดำคือฟ้องพลังงานหยินชัดเจน) หรือสัตว์อะไรก็ตามที่ตาย มักจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่ากับมีวิญญาณด้านมืด จึงทำให้ผัก/เนื้อสัตว์/ปลา ในกระบะนั้นไม่เน่าแต่จะเน่าในมุมที่ทับโดนแมวดำตาย โดยต้องแก้ด้วยฮู้และของไปถอนเอาวิญญาณร้ายออก พอได้ทำพิธีเต๋าก็กลับสู่สภาวะปกติ จะเกิดการเน่าขึ้นอีกเลย อ.แขกจะสื่อให้เห็นว่าของที่มองไม่เห็นมีพลังงานรุนแรงและเราไม่สามารถสัมผัสได้ เพราะเราจะไม่สามารถรู้ว่าจะชนกับพลังงานด้านมืดอยู่หรือไม่ ดังนั้นที่แน่นอนที่สุดเราต้องเสริมให้พลังงานบ้านเราไร้ซึ่งพลังงานด้านมืด