| วัตถุมงคลอีกรายการหนึ่ง ซึ่งว่าเป็นไฮไลท์ที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย คือ หนังเสือโคร่ง ได้มาจากในป่า (ไม่ได้ไปยิง) เป็นเสือตายเอง ซึ่งพรานเป็นเจอโดยบังเอิญ หากเป็น “วิชาเสือ” คนจะมีความเชื่อถือท่านอาจารย์แขกมาก เนื่องจากเสือของอาจารย์แขก มีความแตกต่างจากเสือคนอื่น คือ สามารถนำไปใช้ได้ครอบจักรวาล อำนาจ วาสนา เมตตา โชคลาภ และท่านอาจารย์แขกได้ตั้งชื่อ “หนังเสือ เสือนอนกิน” หากพกหนังเสือรุ่นนี้ติดตัว คนจะเอาเหยื่อมาให้เราเองถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองโชคลาภ เนื่องจาก “เสก” ด้วยวิชาเสือนอนกิน ซึ่งเป็นของพ่อท่านเขียว แห่งวัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี และที่สำคัญคงจะเป็นเรื่องของลายมือบนหนังเสือ เป็นของพ่อท่านเขียวด้วยเช่นกัน หนังเสือของพ่อท่านเขียว เขียนด้วยมือลายมือพ่อท่านเขียว เมื่อ ปี พ.ศ. 2552 ซึ่งพ่อท่านเขียวได้บอกอาจารย์แขก “หนังเสือนี่มันแรงไป เอาเรื่องเมตตา โชคลาภดีกว่า” ท่านอาจารย์แขกจึงบอกพ่อท่านเขียว “ถ้าเช่นนั้นก็เสกให้เป็นเรื่องเมตตา โชคลาภเลยก็แล้วกัน” ท่านอาจารย์แขกเล่าให้ฟัง “ตอนที่เสกหนังเสือ ได้เห็นเคล็ดโบราณมันก็แปลกดี ท่านพ่อเขียวเอาหมูสามชั้นชิ้นใหญ่ๆ แล้วไปวางบนใบตอง จากนั้นมีกล้วย 2 เครือ มันเป็นเคล็ดๆ จะได้หมูๆ กล้วยๆ ซึ่งมันเป็นเคล็ดของคนโบราณ ตัวอาจารย์แขกก็เพิ่งรู้วันนั้นเอง เขากันแบบนี้ด้วยหรือ เขาเรียกวิชาเสือนอนกิน ส่วนเวลาเสกก็ต้องนอนเสกด้วยนะ ก็เปรียบเสมือนเสือมันนอนกินจริงๆ และต้องนอนในท่าเสือด้วย อาจารย์จึงบอกว่าหนังเสือชุดนี้ มันเป็นที่สุดของที่สุดเลยทีเดียว “ตอนเช้า” “เสกบทหนึ่ง “กลางคืน” เสกอีกบทหนึ่ง เวลาในการเสกนาน 3 เดือน (1 พรรษา) เมื่อปี พ.ศ. 2552 วัตถุมงคลใดๆ ก็ตาม หากเป็นของพ่อท่านเขียว ลงมือ “จาร” ด้วยตัวเองหาไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นเมื่อบูชาหนังเสือชุดนี้ไปบูชา ก็จะได้ทั้งหนังเสือและลายมือจาร พ่อท่านเขียว ปัจจุบันบนสนามพระมีราคา “แพง” มาก ยันต์ที่พ่อท่านเขียวจาร เป็นยันต์ตัว “นัง” ซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวพ่อท่านเขียว “นัง” คือ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา มนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ตัวที่ 50 ในตัวพุทธคุณพอดี ในบทรัตนมาลา “นัง” ตัวนี้มีคุณ คือ เทวดาให้คุณกับมนุษย์ ดังนั้นหากเราพกติดตัว เทวดาก็จะดูแลรักษา เปรียบเสมือนเราเอาหนังเสือมาลงยันต์ตัวนี้ เสือที่เป็นเทวดาก็จะมาดูแลรักษา ซึ่งเป็น “วิชาพญาสมิง” ของพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี แต่แตกย่อยออกมาเป็น “เสือนอนกิน” สำหรับ “ตะกรุดพญาสมิง” จะหนักไปในเรื่องของอำนาจ แต่หนังเสือที่กำลังเขียนถึงอยู่นี้ หนักไปในเรื่องของโชคลาภ เงินทอง คนที่พกติดตัวก็จะไม่ต้องเหนื่อย เพราะจะมีคนเอาเงินเอาทอง เอาโชคเอาลาภมาให้ตลอดเวลา สิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตา คือ วันที่อาจารย์แขกเข้าร้านพระเครื่องมีตังค์ วันนั้นจะมีคนแน่นร้าน ตลอดทั้งวัน บางคนเอาขนมมาให้กิน บางคนเอาข้าวมาให้กิน เอาผลไม้มาให้กิน บนโต๊ะทำงานมีแต่ของกิน เรียกว่าวันนั้น “กิน” ทั้งวัน ซึ่งในตัวอาจารย์แขกพกหนังเสือ เลี่ยมพลาสติก ใส่พวงกุญแจ จึงเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดี “เสือนอนกิน” มันเป็นเรื่องจริง ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความเชื่อ “หนังเสือ เสือนอนกิน” มีเคล็ดวิธีการใช้ปกติ คือ พกติดตัวธรรมดา ไม่ต้องว่าคาถาใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนออกจากบ้าน ให้กลั้นหายใจ แล้วเดินข้ามธรณีประตูออกไป เปรียบเสมือนวันนี้ไม่ใช่วันว่าง คือ ไม่ใช่วันปลอดที่จะ ส่งผลร้ายกับเรา ไม่มีใครจะมาทำอันตรายเราได้ เท่ากับในวันนั้นไม่ใช่วันตายของเรา หากจะทำสิ่งใดๆ ก็จะสำเร็จลุล่วงตลอดเวลา ซึ่งอำนาจพุทธคุณมีความครอบคลุม เรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรื่องเมตตามหานิยม เรื่องโชคลาภ แต่ที่เน้นย้ำเป็นพิเศษ คือ เรื่องมหาอุตม์ ท่านอาจารย์แขกกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “โคตรเหนียว” ซึ่งคงจะเป็นหลักประกันได้เป็นอย่างดี อีกประสบการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องของหนังเสือ ลูกพี่ลูกน้องของท่านอาจารย์แขก ไปกินเหล้าแล้วของขึ้นเป็นเสือ แล้วกระโจนขึ้นไปบนบ้าน ซึ่งบนตัวก็ไม่ได้สักยันต์ แต่มีหนังเสือกับตะกรุดธรรมดา (ไม่เกี่ยวกับเสือ) ที่อาจารย์แขกเป็นคนให้ไป เวลาผ่านไปประมาณ 2 นาที ได้เกิดเหตุยิงกันตรงที่ลูกพี่ลูกน้องนั่งอยู่ หากยังนั่งอยู่ก็คงโดนยิงเต็มๆ แสดงว่า “เสือ” ช่วยให้แคล้วคลาด เพื่อนคนเห็นอาจารย์แขกพกหนังเสือ ด้วยความสนใจจึงขอดู แต่พอได้สัมผัสกับหนังเสือปรากฏว่าของขึ้นทันที จนเจ้าตัวถึงกับอุทานออกมา “เป็นแค่หนังเสือธรรมดาๆ แต่ทำไมจึงแรงขนาดนี้” อาจารย์แขกตอบไปว่า “ไม่แรงจะพกไปทำไม เสียชื่อ” หนังเสือเขามีจิตวิญญาณ ยามใดที่เรื่องร้ายๆ จะมาถึงตัว เขาก็จะมาช่วยเราเอง อีกเหตุการณ์ซึ่งเกิดกับเซียนพระ ขณะกำลังขับรถอยู่นั้น แฟนซึ่งไม่ได้แขวนพระเกิดของขึ้นเป็นเสือ ต้องจอดรถข้างทางเพื่อดูว่าแฟนเป็นอะไร ปรากฏว่าแฟนคลานเป็นเสืออยู่ในรถ แต่รถที่ขับตามหลังมาแล้วแซงขึ้นไปนั้น ได้ไปขับชนกับรถเทรลเล่อร์ หากไม่จอดรถข้างทางก็คงต้องชนเต็มๆ เป็นการมาเตือนของหนังเสือ ซึ่งเป็นเรื่องของการแคล้วคลาด วัตถุมงคลของท่านอาจารย์แขก ไม่ว่าจะเป็นรายการใดก็ตาม มีสิ่งที่เป็นจุดยืนมาโดยตลอด คือ ต้องนำไปใช้ได้จริงๆ เพื่อเป็นการเน้นการเผยแพร่ เป็นวิทยาทาน การนำหนังเสือที่โดนยิงตายมาทำเป็นวัตถุมงคล สมมุติเสือโดนยิงตายวันพุธ เราก็จะต้องตายวันพุธด้วยเช่นกัน (ตายตามเสือ) เนื่องจากไม่มีการพลีมาอย่างถูกต้อง เสือจึงเอาเราเป็นตัวตายตัวแทน นอกจากหนังเสือแล้ว เรื่องของงาช้าง หากช้างถูกยิงตายก่อนถอดงา มันจะอันตรายมาก ช้างเป็นสัตว์สูง สัตว์มงคล ส่วนใหญ่คนจะได้งาช้างมาจะต้องยิงให้ตายก่อน นี่คือเหตุผลที่อาจารย์แขก เลือกงาช้างที่ “แทงติดต้นไม้” เท่านั้น ซึ่งมีราคาแพงมาก แต่นำมาใช้ได้จริงตามตำรา โดยไม่ต้องอาถรรพณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อคิดจะสร้างเครื่องรางของขลังตามตำรา แม้จะยากแม้จะแพงก็จะต้องหาและทำให้ได้ ดังนั้นผู้ที่บูชาหนังเสือของพ่อท่านเขียว จึงเท่ากับได้วัตถุมงคลระดับ “สุดยอด” ไปบูชา ในราคาที่คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้... |
| หน้าที่เข้าชม | 246,119 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 165,990 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 17 ม.ค. 2560 |
| ร้านค้าอัพเดท | 23 ต.ค. 2568 |