ผ้ายันต์ “อรหันต์ปราบนรก”
-------------------------
ปัจจุบันเรามีปัญหาเกี่ยวกับโรคโควิด-19
มาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว
และหาแนวทางในการป้องกันและแก้ไข
อย่างลงตัวไม่ได้ มันก็เลยทำให้
จำนวนตัวนับของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต
เพิ่มมากขึ้นทุกวัน จึงเป็นสิ่งที่ทุกคน
ควรระวังและป้องกันภัยเอาไว้
-------------------------
ในเรื่องศาสตร์ของความเชื่อ
ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเป็นครั้งแรก
โรคระบาดมีเกิดขึ้นในครบวงรอบ100 ปีเสมอ
แต่จะมาท้าวความเกี่ยวกับเรื่อง
โรคระบาดที่มีการบันทึกเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด
คือในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ในยุคสมัยลพบุรี สมัยพระนารายณ์มหาราช
ได้เกิดโรคระบาดขึ้นอย่างหนัก
ซึ่งมีบันทึกอยู่ในจดหมายเหตุโบราณ
บันทึกในวรรณคดีต่างๆ รวมไปถึง
การบอกเล่าของบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน
โรคระบาดที่เกิดขึ้นในสมัยลพบุรี
เป็นโรคระบาดที่คนเรียกว่า "โรคห่า"
โรคห่า ก็คือโรคที่ทำให้เกิดการตายกัน
เป็นจำนวนมาก ก็เหมือนห่าลง
(ห่า เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งมีชีวิต
มันชื่อว่าห่าแต่ปัจจุบันมันสูญพันธ์ไปแล้ว)
-------------------------
ผนวกกับความเชื่อ ก็เชื่อว่า "ห่า" เป็นผี
หรือภูติผีวิญญาณ อสูร ประเภทหนึ่ง
ซึ่งมาทำให้การมีชีวิตอยู่ของคน
มีการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการเป็นโรคต่าง ๆ
ท้องร่วง ท้องเสีย หอบ ไอ ไข้ขึ้น ตัวร้อน
ตายแบบไม่มีเหตุผล รวมถึงการไหลตายด้วย
เพราะฉะนั้นถ้าเราจะเท้าความถึงโรคห่า
-------------------------
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
มียาตำหรับหนึ่งเรียกว่า "ยารักษาโรคห่า"
ในบันทึกของตำราฉบับนี้กล่าวถึง
"สำนักตักศิลา" ในสมัยสมเด็จ
เป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดยะลา
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ก็คือตำบลท่าสาป จังหวัดยะลา
ณ ปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ
วัดถ้ำคูหาภิมุข จังหวัดยะลา
-------------------------
สมัยนั้นบริเวณนี้ถูกเรียกว่าเมืองตักศิลา
บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ
ซึ่งเป็นที่ ที่รวมตัวกันของ
ชุมชนชาวพราหมณ์ในสมัยอดีต
พระนารายณ์มหาราชก็จะมีการ
คนมียศฐาบรรดาศักดิ์ต่าง ๆ
มาเรียนที่นี้ และด้วยการเดินทาง
เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างใช้ระยะเวลา
ก็จะเดินทางมาเรียนกันเป็นคู่ ๆ
-------------------------
ยาตำรับนี้ที่ใช้ในการรักษาโรคห่า
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นตัวยา
-------------------------
"ส้มกุ้ง" เป็นพืชชนิดหนึ่ง
พืชส้มกุ้งจะมีอยู่ภาคใต้เป็นจำนวนมาก
และจะมีเขี้ยว 2 ข้างประกบกัน
ยาในสำนักตักศิลาที่ใช้รักษาโรคห่า
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
มาจากภาคใต้ ยืนยันได้เลยว่าสำนักตักศิลา
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
-------------------------
แต่ปัจจุบันเป็น "ห่ากินปอด"
-------------------------
แต่...อาจารย์จะมาท้าวความ
ในสมัยนั้นมีทั้งตำรับยาที่ว่าด้วย
เรื่องสมุนไพร และความเชื่อ
สำนักตักศิลามีวัตถุเวทย์หรือ
ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้ใช้
สำหรับระงับโรคห่า หรือปราบห่า
เพราะว่า "ห่า" เกิดจากวิญญาณชนิดหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นห่าอะไรก็มาจากวิญญาณ
-------------------------
สิ่งที่น่าสนใจก็คือวัตถุเวทย์
หรือไสยเวทวิทยาคมที่ใช้กำจัดโรคห่า
มันน่าสนใจไม่ว่าห่าอะไรก็สามารถกำจัดได้
-------------------------
ถ้าเราจะท้าวความถึงเครื่องรางของขลัง
ซึ่งเก่ามาก และเก่าที่สุด
และได้ผลชงัก คือเครื่องรางของขลัง
ที่ผนวกเอา 2 ความเชื่อใน 2 ลักษณะ
ก็คือเรารู้ว่า "ห่า" คือวิญญาณ
ภูติผีปีศาจแพ้อะไร แพ้ "ท้าวเวสสุวรรณ"
-------------------------
เพราะฉะนั้น..."ท้าวเวสสุวรรณ"
มีหน้าที่ปราบภูติผีปีศาจโดยตรง
แต่ภูติผีปีศาจ "ห่า" เขาบอกเลยว่า
เพราะฉะนั้นภูติผีปีศาจที่มาจากนรก
หาตัวเป็นตัวตายเพื่อไปแทนตัวมัน
ทำไมห่าถึงระบาดถึง 100 ปี
ตามความเชื่อของสำนักตักศิลาเมืองปักคู่
ในยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เขาบอกว่า "ห่า" จะเกิดขึ้นทุก 100 ปี
เนื่องจากนรกจะเปิดทุก 100 ปี
ห่าเกิดจากวิญญาณที่มาจากนรก
ท้าวเวสสุวรรณธรรมดาเอาไม่อยู่
-------------------------
ที่อยู่ในนรกภูมิ ที่มันหลุดลอดขึ้นมา
มันไม่สนใจท้าวเวสสุวรรณเท่าไหร่
เพราะมันมีกำลังอำนาจสูงมาก
เป็นผู้ช่ำชองในพระเวท วิทยาคม
รวมถึงกรรมฐาน การเข้าสู่วาระจิต
เขาได้มองเห็นถึงคุณวิเศษของ
อรหันต์คู่หนึ่งซึ่งเคยลงไป
โปรดเปรตในนรกมาแล้ว ก็คือ
"พระมาลัย" เป็นผู้ไปโปรดเปรต
-------------------------
ที่เขาบันทึกไว้กลับเป็น "พระโมคคัลลานะ"
เพราะท่านเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก
มีพระโมคคัลลานะคนเดียวตามพุทธประวัติ
เพราะ พระมาลัย เป็นผู้ที่แค่ลงไป
โปรดสัพสัตว์ในนรกทั้งหลาย
-------------------------
ให้กับพวกอสูรกายที่อยู่ในนรกกับเป็น
ไฟนรกเขาเรียก ไฟบรรลัยกัน
ที่มีความร้อนแรงมากไม่มีใครดับได้
แต่ด้วยบุญฤทธิ์แห่งพระโมคคัลลานะ
-------------------------
ในสมัยอดีตจากการบันทึกของตักศิลา
เขาบอกว่า "มหายันต์แห่งการระงับโรคห่า"
ก็คือ "ยันต์แห่งพระอรหันต์
ผู้มีฤทธิ์กับมหาราชแห่งท้าวเวสสุวรรณ"
ในยุคนั้นก็มีการเขียนยันต์
ติดทั่ว 4 มุมเมือง และอารามบ้านเรือน
จึงทำให้ "ห่า" กลับไปอยู่ในนรกเหมือนเดิม
-------------------------
ด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งพระโมคคัลลานะ
และทำให้ "ห่า" หายไปจากบ้านเรือนต่าง ๆ
รวมถึงยังพิทักษ์รักษาและป้องกัน
ไม่ให้เกิดโรคห่า และวิญญาณร้าย
-------------------------
วัตถุมงคลที่นำมาออกในวันนี้
เพื่อให้ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ในการนำความรู้ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน
เพื่อนำมาให้คนรู้และเข้าใจและ
นำมาใช้ในเรื่องของเชิงความเชื่อ
-------------------------
ผ้ายันต์ คือ "ยันต์พระโมคคัลลานะ
ล้อมรอบด้วยคาถาพุทธคุณแห่ง
พระพุทธเจ้าแห่งการปราบทั้ง 8 ประการ
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระพุทธเจ้า
ท้าวเวสสุวรรณกับพระโมคคัลลานะด้วย
-------------------------
วิธีการปลุกเสกตามตำราโบราณ
ของเมืองตักศิลาที่มีบันทึกดั้งเดิม
อักขระเลขยันต์ที่เป็นคำสอน
แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิทธัตถะโคตมะ
ที่มีบันทึกอยู่และก็มีการบัญญัติไว้
ว่าด้วยเรื่องการปราบแห่งพระพุทธศาสนา
-------------------------
ได้รับทุกข์เวทนาน้อยหรือหายไป
-------------------------
ท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นเจ้าแห่งทรัพย์
รวมถึงเป็นเทพแห่งโชคลาภมหาสมบัติ
-------------------------
ในเรื่อง โชคลาภ เมตตา คงกระพันธ์
แคล้วคลาด มหาอำนาจ ปราบศัตรู
-------------------------
ในสมัยอดีตเขาจะมาติดในบริเวณบ้าน
หันหน้าออก (ไม่จำเป็นว่าอยู่ตรงไหน)
-------------------------
อิติปิ โส ภะคะวา กุมภัณฑ์ ยักษา โมคคัลลายันติ
(ไม่ต้องขึ้น นะโม 3 จบ หรือจะขึ้น
อันนี้เป็นคาถาที่มีบันทึกมาตั้งแต่สมัยอดีต
-------------------------
(ถ้าไม่มีผ้ายันต์ต้องการใช้แต่คาถาได้ไหม
ถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นคนที่มีศีลบริสุทธิ์
เป็นคนที่มีสมาธิจิตดี เป็นคนที่คิดดี
ไฝ่ดีอยู่เสมอ โดยไม่มีช่องว่างแห่งจิต
เฉพาะคาถาธรรมดาโดยไม่มีผ้ายันต์ก็ใช้ได้)
-------------------------
ที่ผ่านมาไม่มีใครเคยพูดถึง
พระโมคคัลลากับท้าวเวสสุวรรณ
ถือเป็นข้อดีของสมาชิกรายการมันตระสยาม
ซึ่งได้ศาสตร์ความเชื่อในสมัยอดีต
-------------------------
ผ่านพิธีเสกด้วยตัวอาจารย์แขก
และผ่านพิธีใช้พลังงานหยาง
ในระบบของวิชาเหมาซานลงไปในผ้ายันต์ทุกผืน
-------------------------
ผ้ายันต์จะช่วยเป็นขวัญและกำลังใจ
ให้กับสมาชิกรายการมันตระสยาม
รวมถึงสามารถนำไปดับยุคเข็ญแห่งยุคนี้ได้
-------------------------
-------------------------
บูชาผ้ายันต์ “อรหันต์ปราบนรก” 1 ผืน
แถม ยาจินตามะยะสิทธิ์ จำนวน 1 เม็ด
-------------------------
ยาพม่าจินดามณี จำนวน 278 เม็ด
เพื่อเสริมสิริมงคลในตัวเอง
เสริมดวง เสริมโชคลาภ เสริมบารมี
เกี่ยวกับเรื่องวาสนา ดวงไม่ตก
(ดวงไม่ตก "ห่า" ก็ทำอะไรไม่ได้)
-------------------------
เป็นยาที่กินกันตั้งแต่ทีแรก
เมื่อการไหว้ครู 3 ปีที่แล้ว มีแค่ 1 ขัน
หมดแล้วไม่สามารถทำใหม่ได้
-------------------------
ต้องจัดพิธีไหว้ เหมือนไหว้ครู
แต่ไหว้เฉพาะครูพม่าใหม่ทั้งหมด
การผสมยา ต้องขึ้นกะละมังผสมยา
ท้าวทั้ง 4 คือ จตุโลกบาลทั้ง 4
การไหว้ มีไหว้ครู มีกล้วย 10 เครือ
มะพร้าว 10 หวี ขนมหวาน 10 อย่าง
พระสงฆ์ต้องเจริญพุทธมนต์ก่อน 1 วัน
ก็คือ 15 ค่ำ ที่ตรงกับวันจันทร์
ซึ่งทำใหม่ค่อนข้างเรื่องมาก
-------------------------
ยาที่อยู่ในขันวันนี้มีจำนวน 278 เม็ด
แถมให้กับสมาชิกที่บูชาผ้ายันต์
-------------------------
-------------------------
วัตถุมงคล อ.แขก มันตระสยาม
สั่งบูชาวัตถุมงคลแอดไลน์ได้เลยค่ะ
Line ID : @muntrasiamhatyai
หรือคลิ๊ก >> https://lin.ee/LtLBkl
https://shop.line.me/@muntrasiamhatyai