| ฮู้ทุกรายการที่ปรากฏในนิตยสารมันตระสยาม เป็นฮู้ที่สร้างอย่างถูกต้องในวิชาเหมาซาน การที่จะสร้างฮู้ขึ้นมานั้นต้องเป็น “เทพดาว” คือ เทพที่มีพลังงานเดียวกับดวงดาว ในวิชาฮวงจุ้ย พลังงานต่างๆ ที่เรารับในโลก พลังงานหลักมาจากดวงดาวนอกโลก ที่ส่งผลเข้าหาโลก ในวิชาเหมาซานโบราณ มีการสอนในเรื่องของความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องภูมิปัญญา คติธรรมต่างๆ ของจีนโบราณ เอาความมีคุณธรรมของคนที่มีชีวิต มาสร้างเป็นแบบสอดคล้อง ในรูปแบบของเซียน คือ เทพเจ้า การที่มีการแต่งตั้งเทพเจ้า เขาจะดูจากคุณธรรมในเรื่องนั้นๆ ของเซียนว่ามีคุณธรรมเกี่ยวกับเรื่องใด เหมาะกับดาวทิศไหน การที่เราจะทำฮู้ จะต้องมีพลังของเทพที่สอดคล้องกับดาว แต่ถ้าเป็นเทพดิน เช่น ตี่จู้ เจ้าที่ บึงเถ้ากง เถ้าม่า พวกนี้จะไม่มีฮู้ เพราะท่านเป็นเทพมัคคา คือ เทพดิน ท่านจะไม่มีพลังงานของดวงดาว ยกตัวอย่าง ตี่จู้เอี้ยถูกวางไว้กลางบ้าน ในแผนภูมิของดาวดิน ในทิศของหลังม้าของวิชาฮวงจุ้ย เป็นจุดที่พลังงานจากฟ้าส่งผลเข้าหา หากคนมีวิชาฮวงจุ้ย ก็จะปรับเปลี่ยนการวางตี่จู้ได้ โดยอาศัยปัจจัยหลัก 3 เรื่อง ฟ้า (ตำแหน่งดาว) คน (ดวงชะตาเจ้าของบ้าน) ชะตาดิน (กระแสพลังงานที่พุ่งเข้าหาบ้าน อาคาร ร้านค้า) การวางตี่จู้เอี้ยที่ส่งผลเร็วที่สุด คือ ชะตาของคน ถอดดวงของคนก่อน คนที่อยู่อาศัยภายในบ้านเป็นหลัก แล้วเอาตี่จู้เอี้ยวางเสริมดวงคนในบ้าน ซึ่งจะเห็นผล 100 % แต่จะต้องมีความเข้าใจ ในเรื่องการคำนวณดวง มีความเข้าใจในเรื่องการคำนวณชัยภูมิ มีความเข้าใจในเรื่องการวางตำแหน่งดวงดาว “เทพท่ามกงเยี้ย” คนเมืองตรังจะรู้จักเทพองค์นี้ เนื่องจากศาลเจ้าของท่านอยู่จังหวัดตรัง (มีที่เดียว) คือ ชุมชนจีนโพ้นทะเลสมัยก่อนเดินเรือทางทะเล เมื่อเกิดพายุกลัวว่าจะไม่รอด จึงบอกปากเปล่าไปกับฟ้า พูดถึงองค์เทพท่ามกงเยี้ย หากรอดก็จะตั้งศาลไว้ที่เมืองนี้ คือ จังหวัดตรัง เมื่อป่าวประกาศไปแล้ว ปรากฏว่าคลื่นลมสงบ ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกประหลาด ทำให้การเดินทางครั้งนั้นปลอดภัย จึงนำไม้มาแกะ (คนจีนเรียก “อิ้น”) เป็นรูปพระหยาบๆ แล้วตั้งไว้กลางทุ่งนา ทำศาลาเล็ก จากนั้นก็ทำการกราบไหว้ จากศาลาเล็กๆ มาจนถึงวันนี้เกือบ 100 ปี ปัจจุบันกลายเป็นศาลเจ้าในจังหวัดตรัง ซึ่งมีความเก่าแก่ที่สุด แต่คนกลับรู้จักน้อยที่สุด เทพท่ามกงเยี้ย เป็น “ยุวเทพ” ที่มีฤทธิ์มาก และไม่มีใครสร้างวัตถุมงคลท่ามกงเยี้ย ท่านสำเร็จเป็นเซียนตั้งแต่อายุยังน้อย และเป็นเซียนที่ถูกตั้งเอาไว้ในลำดับต้นๆ ของกลุ่มดาว อำนาจของท่าน “เหนือ” กว่าเง็กเซียนฮ่องเต้ ท่านเป็นเทพอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับใคร เป็นเทพที่ทำอะไรโดยไม่สนใจใคร จึงเป็นเทพองค์เดียวที่ไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ และตำแหน่งกลุ่มดวงที่ท่านอยู่ เป็นดาวดวงเดียว ที่ตำแหน่งการเดินของกลุ่มดาว ไม่เหมือนดาวดวงอื่น คือ สามารถโคจรไปจุดไหนก็ได้ กลุ่มดาวนี้ปัจจุบันถูกเรียก “กลุ่มดาวหาง” (ผีพุ่งใต้) ซึ่งเราจะพบดาวกลุ่มนี้ ไปทางเหนือก็ได้ ไปทางใต้ก็ได้ ไปได้ทุกทิศทุกทาง และที่พิเศษสุด คือ ไม่ได้มาดวงเดียว หากแต่มาพร้อมบริวาร เป็นร้อยๆ พันๆ ดวง เช่น กลุ่มดาวฝนดาวตก ซึ่งมีเทพเพียงองค์เดียว ที่คุมกลุ่มดาวนี้ คือ ท่ามกงเยี้ย (เหมาซานจัดท่านไว้สูงมาก) ท่ามกงเยี้ยสมัยเด็ก (ตอนที่ยังมีชีวิตบนโลกมนุษย์) เพื่อนอยากเห็นมังกร ท่ามกงเยี้ยกระโดดลงน้ำ ไปเอาเถาวัลย์ที่เป็นตัวยึดสวรรค์กับโลกมนุษย์ ไปมัดมังกรเอาขึ้นมาให้เพื่อนดู จ้าวสมุทรปั่นป่วน ไม่มีใครทำอะไรได้เลย ยูไลก็ทำอะไรไม่ได้จึงต้องสอนธรรมะ เพื่อให้เห็นโทษการทรมานสัตว์ ท่ามกงเยี้ยสงสารจึงปล่อยมังกรกลับไป คนจีนมีความเชื่อ หากทะเลเกิดลมพายุ มันเป็นการกระทำของมังกร ซึ่งผู้ที่จะปราบมังกรได้ มีเพียงท่ามกงเยี้ยเท่านั้น ดังนั้นเมื่อต้องผจญกับลมพายุ เพียงแค่เอ่ยนามของท่ามกงเยี้ย คลื่นลมก็จะพลันสงบลงทันที ด้วยความเกรงกลัวในอิทธิฤทธิ์ของท่ามกงเยี้ย ด้วยการที่ท่านสูงมาก และเป็นศาลที่มีอายุเก่าแก่ คนตรังจึงไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับท่าน ท่ามกงเยี้ยเคยมี “ป้าย” สำหรับพกติดตัว เรียก “ป้ายพัด” (อาจารย์แขกพกติดตัว) วิธีการเสก “สุดยอด” คือ เอาป้ายวางที่หน้าศาลท่ามกงเยี้ย จากนั้นเอาขี้ธูปในกระถาง “โรย” โดยไม่ต้องปลุกเสก ซึ่งถือว่าแค่นี้ก็เป็น “สุดยอด” แล้ว ซึ่งคนที่พกป้ายท่ามกงเยี้ย จะมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน คือ รถล้มไม่ได้รับบาดเจ็บ ตกน้ำลอย โดนยิงไม่เข้า ค้าขายร่ำรวย ทำอะไรไม่มีติดขัด การทำป้ายท่ามกงเยี้ย (สมัยก่อน) ทำเพียงปีละครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีคนถามหากันเป็นจำนวนมาก จึงมีการทำปลอมเกิดขึ้นมากมาย ป้ายท่ามกงเยี้ยมีราคาแพง (คนจีนเรียก “ถั่มกงหยา” คนไทยเรียก “ท่ามกงเยี้ย”) ฉายานามของท่าน คือ เทพเด็ก ซึ่งมีฤทธิ์มากที่สุด อาจารย์แขกพยายามสร้างฮู้ท่ามกงเยี้ย ตั้งแต่ พ.ศ. 2553 แต่เบื้องบนท่านไม่อนุญาตให้สร้าง ในเมื่อยังไม่ได้รับอนุญาต อาจารย์แขกจึงไม่ กล้าสร้าง (การอนุญาตให้สร้างฮู้ มันเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล) หากคนธรรมดาถาม จะใช้ไม้ 2 อันโยนเสี่ยงทาย คว่ำหงาย แต่อาจารย์แขกมีวิธีถามแบบเฉพาะตัว ซึ่งไม่ขอเปิดเผย ภาพที่ปรากฏบนฮู้ท่ามกงเยี้ย บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของ “เทพ ท่ามกงเยี้ย” คือ นั่งอยู่บนเขาเหมาซาน ซึ่งเป็นภูเขาที่มีพลังสูงสุดของจีน ซึ่งจะไม่มีเทพองค์ใด กล้าขึ้นไปนั่งอยู่บนเขาเหมาซาน ซึ่งเหมาซาน “ยก” ให้ท่านเป็นเอกของเทพ อาจารย์แขกรู้จักท่ามกงเยี้ยได้อย่างไร? อาจารย์แขกท่านได้เล่าให้ฟัง “รู้จักท่ามกงเยี้ยจากในกรรมฐาน ซึ่งรู้จักมานานแล้ว ก่อนที่ใครๆ จะรู้จักเสียด้วยซ้ำไป” อำนาจพุทธคุณ ความวิเศษของฮู้ท่ามกงเยี้ย คือ ด้วยความที่ท่านเป็นเด็ก ใครมาขออะไรท่านให้หมดทุกคำขอ ขอดีท่านก็ให้ ขอไม่ดีท่านก็ให้ จึงเป็นเทพองค์เดียวที่ “ให้” ในทุกเรื่องที่ถูกขอ... |
| หน้าที่เข้าชม | 246,119 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 165,990 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 17 ม.ค. 2560 |
| ร้านค้าอัพเดท | 23 ต.ค. 2568 |